Cleaning, TIPS & TRICK
การดูแลเท้า ช่วงหน้าฝน
การดูแลเท้า ช่วงหน้าฝน
เข้าสู่หน้าฝนอย่างเต็มฤดูแล้ว ฝนเจ้ากรรมก็รู้เวลาตกเสียด้วยสิ ชอบตกเวลาเลิกงาน เลี่ยงไม่ได้เลย ที่เท้าสวยๆ ของเราต้องเดินลุยน้ำ ที่มีสิ่งปนเปื้อนมากมายตามสภาวะ ที่เต็มไปด้วยมลพิษ ทั้งเชื้อโรคที่ มาพร้อมความชื้นแฉะ ดังนั้น การดูแลเท้าของเราในช่วงนี้ จึงมีความสำคัญมาก เราจึงต้องใส่ใจสุขภาพเท้ามากเป็นพิเศษ
วันนี้ ELVIRA มีวิธีการรับมือกับช่วงหน้าฝน ไม่ให้เท้าของเราต้องเสี่ยงติดเชื้อโรค หรือเป็นแผลอันเกิดจากการเดินลุยน้ำท่วม กันค่ะ
- เริ่มจากควรเลือกรองเท้าให้เหมาะสมกับช่วงหน้าฝน ควรเป็นรองเท้าแบบที่อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่อมน้ำง่าย เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคือง และกลิ่นเหม็นอับได้
- ถ้าเลี่ยงได้ ไม่ควรเดินลุยน้ำ หากเลี่ยงไม่ได้ ก่อนลุยน้ำควรใช้ขี้ผึ้ง เช่น วาสลีน ทาเคลือบผิว เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวสัมผัสกับน้ำได้มาก ถ้าไม่มีน้ำเพียงพอที่จะทำความสะอาด การเช็ดเท้าให้แห้งอยู่เสมออย่างน้อยก็จะลดปัญหาของผิวได้ เพราะถ้าเท้าโดนน้ำอยู่ต่อเนื่องก็จะเกิดเท้าเปื่อย ผิวแตกลอกได้
- ควรระวังไม่เดินย่ำน้ำด้วยเท้าเปล่า เพื่อป้องกันการโดนสิ่งมีคม เช่น เศษแก้ว เศษกระเบื้อง เพราะอาจเกิดการบาดเจ็บ หรือเป็นแผลบริเวณเท้าเนื่องจากถูกแก้วบาด หรือตอไม้ทิ่มตำ เพราะเมื่อมีบาดแผลดังกล่าวแล้วหากยังเดินย่ำน้ำต่อจะเกิดอันตรายจากการติดเชื้อสูงขึ้นไปอีก สิ่งสกปรกหรือเชื้อโรคก็จะเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น รวมทั้งการโดนสัตว์มีพิษกัดต่อยได้ เช่น ตะขาบ หรืองู หรือมีโอกาสที่จะมีพยาธิไชผ่านผิวหนังได้ ดังนั้นควรใส่รองเท้าให้เหมาะสมกับหน้าฝน ดีที่สุดสำหรับเท้าเรา
- ขณะเดินอยู่ในน้ำ เราควรยกเท้าเหนือน้ำ เมื่อต้อง การจะก้าวเท้าต่อไป ไม่ควรก้าวเท้าโดยให้เท้าอยู่ใต้น้ำ เพราะการกระทำเช่นนี้จะทำให้เดินช้าลง และใช้เวลาลุยน้ำนานขึ้น โดยได้ระยะทางน้อย
- ควรล้างเท้าให้สะอาดทันทีหลังจากเดินลุยน้ำแล้ว เช็ดเท้าให้แห้งสนิททุกครั้ง โดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วเท้าต้องให้แห้งจริงๆ
วิธีการล้างเท้าสามารถทำได้ 2 วิธีคือ
- ล้างเท้าโดยใช้สบู่ถูบริเวณผิวหนังที่สัมผัสกับน้ำ เน้นตรงซอกเท้า ซอกเล็บด้วย บริเวณซอกเล็บควรใช้ แปรงอ่อนๆ จุ่มสบู่เล็กน้อยและถูเบาๆ ทำให้เชื้อโรคหรือไข่พยาธิต่างๆ หลุดออกไปได้หมด หรือจะแช่เท้าในอ่างบรรจุน้ำสะอาดสัก 15-30 นาที แล้วเช็ดเท้าให้แห้งสนิท เพื่อไม่ให้เกิดความชื้น ซึ่งอาจทำให้เกิดเชื้อรา เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นแหล่งของโรคที่เกิดในช่วงฤดูฝน ไม่ว่าจะเป็น ไข้หวัดชนิดต่าง ๆ โรคฉี่หนู โรคไข้เลือดออก โรคตาแดง แต่โรคที่คนส่วนใหญ่มักเป็นกันบ่อยครั้งและพบมากในช่วงฤดูฝน คือ โรคน้ำกัดเท้า หรือ ฮ่องกงฟุต
- การทำความสะอาดอาจใช้เกล็ดด่างทับทิมผสมน้ำเพื่อฆ่าเชื้อ ผสมให้น้ำเป็นสีชมพูอ่อน แช่เท้าประมาณ 5 นาที
- อาจใช้แป้งฝุ่นโรยสักเล็กน้อยเพื่อเป็นการหล่อลื่นผิวหนัง ถ้าหากเกิดอาการ ผด ผื่น คัน ให้รีบปรึกษาแพทย์
- ควรทาโลชั่น หรือครีมบำรุงสุขภาพเท้าบางๆ เพื่อให้เกิดความชุ่มชื้นกับผิว ทั้งหลังเท้าและฝ่าเท้า ห้ามทาครีมบริเวณซอกนิ้วเท้า เพราะอาจเกิดการหมักหมมของเชื้อราได้สำหรับคนที่ผิวแห้ง ไม่ควรทาครีมแบบมีน้ำหอม
- กรณีผู้ที่มีแผลที่เท้าควรหลีกเลี่ยงการโดนน้ำให้ได้มากที่สุด เพราะอาจจะทำให้แผลหายช้า และอาจมีการติดเชื้อโรคต่างๆ ที่ตามมากับหน้าฝน หากเลี่ยงไมได้ ควรรีบทำความสะอาดโดยเร็วที่สุด ใช้ยาฆ่าเชื้อโรค, เบตาดีน หรือน้ำเกลือทำความสะอาดแผล ถ้าบาดแผลขนาดใหญ่ ควรรีบพบแพทย์ และควรฉีดยาหรือ วัคซีนป้องกันบาดทะยัก
- ถ้ามีอาการคันบริเวณผิวหนังซึ่งจุ่มน้ำ แสดงว่าผิวหนังได้รับการระคายเคืองมากจากสิ่งปฏิกูลในน้ำ ควรทายาแก้คัน เช่น คาลาไมน์ หรือครีมแก้คันอื่นๆ เช่น ไทรแอมซิโนโลน
- ถ้าเล็บยาวต้องตัดเล็บเท้าอย่างถูกวิธี โดยตัดตรงตามแนวขอบเล็บเท่านั้น ไม่ตัดเล็บเซาะเข้าไปด้านข้างหรือจมูกเล็บ และไม่ควรตัดเล็บให้สั้นเกินไป
- ควรนำรองเท้าที่เปียกน้ำไปตากแดด เช่น รองเท้าผ้าใบ รองเท้าหนัง ก่อนตาก ควรล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย จากนั้นนำไปตากแดดให้แห้งสนิท เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย
เพียงแค่นี้ก็จะมีสุขภาพเท้าที่ดีได้ ด้วยตัวเองแล้ว ปัญหาสุขภาพ เท้าในช่วงหน้าฝนที่หลายๆคนเคยเจอก็จะหมดไปแน่นอน!!
ข้อมูลจาก : www.thaihealth.or.th, www.kapook.com, www.rno.moph.go.th
Facebook : Elvirathai
Twitter : Elvirathai
Comments are closed