Sewing, TIPS & TRICK
DIY เปลี่ยนเสื้อเก่าเป็นเสื้อใหม่

เชื่อว่าคุณผู้หญิงทุกคนต้องชอบซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ หรืออาจมีเสื้อผ้าอยู่เต็มตู้ที่ใส่บ้างไม่ใส่บ้างใช่ไหมคะ วันนี้แอดมินมี DIY ง่ายๆที่จะเปลี่ยนเสื้อยืดตัวเก่าที่ไม่ค่อยได้ใส่ ให้กลายเป็นเสื้อตัวใหม่เอาไว้ใส่เอง หรือทำให้ลูกหลานใส่ก็น่ารักไปอีกแบบค่ะ
อุปกรณ์
- เสื้อยืด 1 ตัว
- กรรไกรตัดผ้า
- ช็อล์กขีดผ้า
- เข็มหมุด
- เชือกสำหรับทำสายคล้องคอ
- อุปกรณ์ตกแต่ง เช่น ผ้าลูกไม้ เป็นต้น
แปลงโฉมเสื้อตัวเก่าเป็นเสื้อตัวใหม่
- เอาเสื้อมาตัด
ขั้นตอนแรก เตรียมเสื้อยืดที่เราไม่ได้ใส่ หรือจะเป็นตัวที่เราชอบก็ได้ค่ะ เอามาวัดขนาดให้พอดี ตัดแขน และคอเสื้อเดิมออก ตามรูปเลยค่ะ
- เมื่อตัดแขนและคอเดิมออกแล้ว จะได้เป็นคล้ายๆเสื้อเกาะอก ตามรูปค่ะ
- กลับด้านของเสื้อ
กลับเสื้อเอาด้านในออกมา วัดคอเสื้อลงมา 2 เซนติเมตร แล้วพับลงมาเอาเข็มหมุดกลัดไว้หลวมๆ ทำทั้ง 2 ฝั่งเลยนะคะ ขั้นตอนนี้ การพับลงมาอาจเปลี่ยนแปลงขนาดได้ตามขนาดของเชือกที่จะเอามาร้อยทำเป็นสายคล้องคอได้นะคะ
- เย็บปิด
จากนั้นเย็บปิดรอยตามที่เรากลัดเข็มหมุดไว้ตามรูปค่ะ ขั้นตอนนี้แนะนำให้ใช้จักรเย็บผ้า ชิ้นงานจะได้เรียบร้อยนะคะ
- กลับเสื้ออีกรอบ
เมื่อเย็บแล้วให้กลับผ้าเอาด้านนอกออกเหมือนเดิมจะได้ตามภาพเลยค่ะ
- สอดเชือก
นำเชือกที่เตรียมไว้มาสอดช่องที่เราเย็บไว้แล้วมัดเป็นปมให้สวยงาม
- ตกแต่งให้สวยขึ้นไปอีก
อาจจะตกแต่งด้วยผ้าลูกไม้สวยๆ เพิ่มความเก๋ได้อีกแบบค่ะเป็นอันเสร็จ

เท่านี้เราก็ได้เสื้อตัวใหม่ไว้ใส่เก๋ๆ จะใส่ไปเที่ยววันธรรมดา หรือไปทะเลวันชิลๆก็ได้ สวยแถมทำได้ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ได้เอาเสื้อตัวเก่าๆมาใส่ซ้ำได้อีก ประหยัดเงินแถมสวยอีกด้วย ลองเอาไปทำตามกันดูนะคะ
TIPS & TRICK
วิธีดูแลตัวเองเมื่อฝนมา

ช่วงนี้ฝนตกบ่อยนะคะ เอลวิร่าเคยเสนอวิธีการดูแลเสื้อผ้าช่วงที่ฝนตกบ่อยกันไปแล้ว ทีนี้เรามาดูวิธีการดูแลตัวเองในช่วงฤดูฝนกันบ้างค่ะ
1. เสื้อผ้าที่เหมาะสมกับหน้าฝน
จะต้องเลือกเนื้อผ้าที่สวมใส่สบาย สามารถระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน เพราะเป็นผ้าที่เบา สวมใส่สบาย ซับเหงื่อได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับการนำมาใส่ในช่วงหน้าร้อน รวมทั้ง หน้าฝน เนื่องจากเป็นผ้าที่เมื่อเปียกแล้วแห้งง่าย
2. หากผมโดนฝนต้องรีบสระทันที
กลางกระหม่อมของเรามีจุดระบายความร้อนอยู่ และเป็นที่ตัดกันของจุดลมปราณหลายๆ จุด เมื่อโดนฝนจุดกลางกระหม่อมนี้ได้รับความเย็น ก็อาจทำให้เราไม่สบายได้ การไปอาบน้ำ สระผมทำให้ร่างกายปรับสมดุล ไม่ได้เย็นอยู่เพียงจุดเดียว อีกประเด็นฝนนำพาเชื้อโรคต่างๆ เมื่อเราโดนฝนทำให้เรามีโอกาสจะไม่สบายมากขึ้น ต้องรีบไปสระผม รีบล้างเชื้อโรคออก
3. รับประทานผักและผลไม้ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
ผักและผลไม้สดจะอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ ทำให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายแข็งแรง และยับยั้งการเกิดโรคได้ และยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันได้อีกด้วย ผักและผลไม้ที่ควรทานเช่น บร็อคโคลี่ ส้ม ฝรั่ง ขิง ขมิ้นชัน กระเทียม เป็นต้น
4. ล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์
การล้างมือบ่อยๆจะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ โดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาดของไวรัส
5. ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 1.5 ลิตร
ลิตร ในแต่ละวันเราควรดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 1.5 ลิตร ควรเป็นน้ำอุณหภูมิห้อง หรือน้ำอุ่น เพื่อควบคุมระดับอุณหภูมิของร่างกายให้ปกติ การดื่มน้ำช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ทำให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายไม่ขาดน้ำ และสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้ผิวหนังเพื่อลดโอกาสที่เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกาย
6.หลีกเลี่ยงที่แออัด
ที่ที่มีคนอยู่หนาแน่นจะทำให้ติดเชื้อได้ง่าย เนื่องจากสถานที่ที่แออัดคือสถานที่ที่ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงบุคคลต่างๆได้ เราไม่สามารถทราบได้ว่า คนไหนมีเชื้อโรคติดตัวมาด้วยหรือเปล่า
7. พกร่มและเสื้อกันฝนเพื่อไม่ให้ร่างกายเปียกฝน
ช่วงหน้าฝนควรพกร่มและเสื้อกันฝนติดตัวไว้ด้วยนะคะ ร่างกายเราจะได้ไม่เปียกฝน จะสามารถลดการอับชื้นและการสะสมเชื้อราอันเป็นสาเหตุของการไม่สบายตัวและนำไปสู่การเป็นหวัด หรือไข้หวัดใหญ่ได้
นอกจากนี้แนะนำให้เลือกสวมใส่เสื้อผ้าเนื้อบางเบา สามารถระบายอากาศได้ดี เนื้อผ้าไม่หนาจนเกินไปและไม่บางมากจนเกินไปเพราะหากเปียกฝนจะทำให้แห้งง่าย เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นเสมอ มีภูมิต้านทานได้ดี ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคต่างๆ เช่น โรคปอดบวม โรคทางผิวหนัง อย่างไรก็ดี หลังจากเปียกฝนมาใหม่ๆ ควรรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกชื้นออกทันที เช็ดผมให้แห้งเพื่อให้ร่างกายเกิดความอบอุ่น
ช่วงนี้ฝนตกบ่อย ดูและสุขภาพกันด้วยนะคะ ^^
Sewing, TIPS & TRICK
ความรู้เรื่องเข็ม
เข็มเป็นส่วนสำคัญในการเย็บจักร การเข้าใจในการเลือกใช้ชนิด ขนาด และการดูแลเข็มจักร จะทำให้สร้างผลงานตัดเย็บที่สวยงามไม่มีปัญหาติดขัดค่ะ ต้องเปลี่ยนเข็ม… เมื่อเข็มทื่อ สังเกตจาก ฝีเข็มกระโดด เสียงดัง(ปุกๆๆ) เพราะเข็มทื่อจึงไปสะกิดเส้นใยผ้าทำให้ผ้าย่นหรือรั้งค่ะเข็มเย็บผ้าที่ ELVIRA นำเข้ามาขาย คือยี่ห้อ SCHMETZ เป็นเข็มคุณภาพดีจากเยอรมันค่ะ

การดูเข็ม
เข็มเย็บผ้า ที่เราใช้กับจักรเย็บผ้าเอลวิร่าเป็นเข็มที่ใช้เฉพาะกับจักรบ้าน รูปตัวอย่าง ยี่ห้อ SCHMETZ จากเยอรมัน มีวิธีดูตามรูปตัวอย่างนะคะ
ระบบ 130/705 H เป็นเข็มสำหรับจักรบ้าน ซึ่งก้านเข็มอีกด้านแบน เวลาใส่จักรให้เอาด้านแบนหันออกนอกตัวเราค่ะ
Universal เป็นประเภทเข็มใช้ทั่วไป กรณีเป็นเข็มสำหรับผ้าพิเศษจะมีบอกค่ะ เช่น H-S (Stretch) ใช้กับผ้ายืด , H-J (Jeans/Denim) ใช้กับ ยีนส์
80/12 คือขนาดเข็มค่ะ ระบบยุโรปเบอร์ 80 และระบบอเมริกันเรียกเบอร์ 12 ขนาดเข็มมีให้เลือกตั้งแต่ขนาดเล็ก – ใหญ่ควรเลือกให้เหมาะกับการเย็บแต่ละและเนื้อผ้าค่ะ
เลือกขนาดเข็ม
เพื่อให้ชิ้นงานเย็บออกมาดี ควรเลือกใช้เข็ม ด้าย ให้พอดี เหมาะสมกับชนิดของผ้า โดยดูจากขนาดความโตของเว้นด้ายหากใช้ด้ายเส้นเล็กบางเบา ควรใช้เข็มขนาดเล็ก หากใช้เข็มขนาดใหญ่ก็ควรใช้ด้ายขนาดใหญ่

ขนาดเข็มจักรเย้บผ้าเริ่มตั้งแต่ขนาดเล็ก-ใหญ่ สำหรับยี่ห้อ SCHMETZ จากเยอรมันเป็นเข็มระบบยุโรปค่ะ

ชนิดของเข็ม
เพื่อลดปัญหาในการเย็บผ้าชนิดพิเศษต่างๆ ควรเลือกเข็มให้เหมาะกับเนื้อผ้าที่มีเส้นใยแตกต่างกัน
เข็มเย็บผ้าธรรมดา 130/705 H
เป็นเข็มเย็บผ้าธรรมดา ซึ่งจะมีขนาดเข็มหลายขนาดให้เลือกใช้ได้เหมาะกับเนื้อผ้าค่ะ

เป็นเข็มเย็บผ้าขนาดเล็ก ออกแบบมาให้เหมาะกับการเย็บผ้าเนื้อบางๆ เช่น ผ้าชีฟอง ผ้าแก้ว ผ้ามัสลิน ควรใช้คู่กับด้ายเส้นเล็กเช่น ด้ายโพลีเอสเตอร์ เมื่อเย็บแล้วจะได้ตะเข็บที่ สวยเนียนกลมกลืนกับเนื้อผ้า ดูสินค้า เข็มเบอร์ 60
เหมาะกับการเย็บผ้าเนื้อบาง เช่น ผ้า สำหรับชุดเด็ก ผ้ามัสลิน ผ้าแพร ควรใช้คู่กับด้ายเส้นเล็กข้อแนะนำ : การเย็บผ้าเนื้อบางมากๆ การใช้คู่กับตีนผีเย้บผ้าบางจะช่วยให้ตะเข็มสวยงามมากขึ้นค่ะข้อควรระวัง : เข็มขนาดเล็กมากไม่สามารถใช้ที่สนเข็มอัตโนมัติได้ต้องสนเข็มด้วยมือค่ะ ดูสินค้า เข็มเบอร์ 70

เหมาะกับการเย็บผ้าเนื้อบางถึงปานกลาง เช่น ผ้า สำหรับชุดเด็ก ผ้ามัสลิน ผ้าแพร ควรใช้คู่กับด้ายเส้นเล็ก และใช้คู่กับไหมปักในกรณีที่ปักลวดลายต่างๆ ดูสินค้า เข็มเบอร์ 75
เหมาะสำหรับผ้าธรรมดาทั่วไปเนื้อปานกลาง เช่น ผ้าคอตตอน ผ้าซาติน ผ้าลินิน ผ้าขนสัตว์เนื้อบาง สามารถใช้ได้กับกับด้ายเย็บทั่วไป ด้ายเมจิกสปัน ดูสินค้า เข็มเบอร์ 80

ใช้เย็บผ้าธรรมดาทั่วไปเนื้อปานกลาง-หนา เช่น ผ้าคอตตอนเนื้อหนา ดูสินค้า เข็มเบอร์ 90
ใช้เย็บผ้าธรรมดาทั่วไปเนื้อหนา เช่น ผ้าทำกระเป๋า ผ้าใบ ดูสินค้า เข็มเบอร์ 100
เข็มเย็บผ้าธรรมดา เบอร์ 110
ใช้เย็บผ้าธรรมดาทั่วไปเนื้อหนาพิเศษ เช่น ผ้าทำกระเป๋าเนื้อหนา ผ้าใบ
เข็มจักรแซกริมผ้า EL X 705

จักรแซกริมผ้าหรือเรียกง่ายๆ ว่าจักรโพ้ง เป็นการแซกริมผ้าที่เกิดจากการถักคล้องกันด้วยด้าย 3-4 เส้น ซึ่งมีเข็มด้ายบนและตัวคล้องด้ายด้านล่างสองอันที่เรียกว่าLoop ถักกัน เป็นตะเข็บแวกริมผ้าสวยงาม เข็มจักรแซกริมผ้า มีร่องเข็ม 2 ด้าน ทั้งหน้าและหลัง (เข็มที่ใช้กับจักรเย็บผ้าธรรมดามีร่องเข็มด้านเดียว)เพื่อความสะดวกในการถักคล้องกัน จึงเหมาะกับจักรโพ้งค่ะดูสินค้า เข็มจักรแซกริมผ้าเบอร์ 80
หมายเหตุ
จักรแซกริมผ้าเราสามารถใช้เข็มจักรธรรมดาเย็บได้ แต่เพื่อให้การโพ้งราบรื่นขึ้น ตะเข็บสวยงาม จึงนิยมเลือกใช้เข็มจักรแซกริมผ้าค่ะ
เข็มควิลท์ติ้ง 130/705 H-Q

บอดี้เข็มผอมเรียว ปลายเข็มกลมมน สามารถเย็บผ่านใยโพลีเอสแตอร์ได้ดี ออกแบบมาสำหรับงานควิลท์โดยเฉพาะช่วยให้เรา Quilt, Appliqué, Patchwork บนใยโพลีเอสเตอร์ ได้ง่าย นิ่มนวล ลื่น ได้ผลงานที่ปราณีตยิ่งขึ้น ดูสินค้า เข็มควิลท์
เข็มเย็บผ้ายืด 130/705 H-S

เข็มเย็บผ้ายืด 130/705 H-S
ผ้ายืดทอแบบห่วง (knitting) มีความยืดหยุ่น เข็มเย็บผ้ายืดจะช่วยให้เย็บง่าย และควรใช้ตะเข็บที่มีความยืดหยุ่นสูงและฝีเข็มสวยปราณีตค่ะเข็มถูกออกแบบมาให้มีปลายมน เพื่อลดการฉีกขาดของเส้นใยผ้ายืด และลดปัญหาตะเข็บกระโดด ผ้ายืดเนื้อบาง-ปานกลาง เช่น ผ้าเจอร์ซี่ผ้าชุดว่ายน้ำ ผ้ายืดเนื้อบาง-ปานกลางนิยมใช้เข็มเย็บผ้ายืดเบอร์ 75 ผ้ายืดเนื้อปานกลาง- หนา นิยมใช้เข็มเย็บผ้ายืดเบอร์ 90
ดูสินค้า เข็มเย็บผ้ายืดเบอร์ 75
ดูสินค้า เข็มเย็บผ้ายืดเบอร์ 90
เข็มเย็บยีนส์ 130/705 H-J

ออกแบบมาให้มีปลายแหลมพิเศษ เพื่อสามารถเย็บผ้ายีนส์ ซึ่งเป็นผ้าเนื้อแข็ง ได้อย่างแนบเนียน สวยงาม
ดูสินค้า เข็มเย็บยีนส์เบอร์ 90
เข็มเย็บหนัง 130/705 H-LL

ออกแบบมาให้มีปลายแหลมเหมือนปลายหอก เพื่อให้สามารถเย็บหนังได้อย่างสะดวก ไม่ควรใช้เข็มเย็บหนังไปเย็บผ้าธรรมดา เพราะจะทำให้เกิดความเสียหาย
ดูสินค้า เข็มเย็บหนังเบอร์ 100
เข็มเย็บผ้าเพื่อการตกแต่ง
เป็นเข็มชนิดพิเศษ ใช้เย็บเพื่อให้เกิดลวดลายที่น่าสนใจบนชิ้นงานค่ะ
เป็นเข็มที่มีปีกเพื่อถ่างผ้าให้เกิดรูตลอดแนวที่เย็บ เข็มจะเจาะผ้าเป็นรูและด้ายจะมัดรูนั้นเอาไว้ให้เกิดเป็นลวดลายใช้ตกแต่งงานปักฉลุ (Hemstitch) Heirloom เข็มพายออกแบบมาให้มีปีกคล้ายใบพายเพื่อถ่างผ้าให้เกิดรูตลอดแนวที่เย็บและเส้นด้ายจะไปมัดรูที่เย็บไว้ ใช้เย็บงานปักฉลุ Heirloom นิมยมตกแต่งเสื้อผ้าเด็ก เสื้อผ้าสุภาพสตรี ผ้าม่าน ของใช้อื่นๆข้อแนะนำ : เพื่อให้การเจาะฉลุเกิดรูชัดเจนควรใช้กับผ้าคอตตอน ลินิน และมัสลินค่ะ
ดูสินค้า เข็มพายเบอร์ 100

ออกแบบมาพิเศษ ให้มีเข็ม 2 เล่มในก้านเดียวกัน ใช้ได้เส้นตรงและลายตกแต่งค่ะ
1. ด้ายบน ให้ด้าย 2 เส้นโดยกรอด้ายใส่ไส้กระสวย 2 อัน ร้อยด้ายตามปกติ แล้วแยกร้อยใส่ปลายเข็มทั้ง 2
2. เวลาร้อยด้ายเข้าเข็มไม่สามารถใช้ที่สนเข็มได้ ต้องใช้มือสนเข็มเองค่ะ 3. ด้านล่างใส่ไส้กระสวยตามปกติค่ะ
ดูสินค้า เข็มคู่เบอร์ 2.0/80

ข้อแนะนำ : เข็มคู่เป็นเข็มที่มี 2 เล่มในก้านเดียวกันเวลาเย็บลายปักจึงกว้างขึ้นกว่าปกติ ทำให้ เข็มไปชนตีนผีเป็นสาเหตุให้เข็มหักได้ดังนั้นเพื่อป้องกันเข็มหัก ต้องลดความกว้างของลายให้น้อยลง ลดความตึงด้ายบนลงเล็กน้อย เริ่มเย็บช้าๆ ไม่ควรใช้ความเร็วมากเกิน ไปค่ะ
เข็มจักรที่มาพร้อมกับจักรเย็บผ้า ELVIRA

เมื่อซื้อจักรเย้บผ้าเอลวิร่ารุ่น Renova Touch E, Renova Party E, Innova Plus E, Diana Plus E จะมีเข็มให้ 1 กล่อง
– เข็มเย็บผ้าธรรมดา เบอร์ 75 จำนวน 2 เล่ม สำหรับเย็บผ้าเนื้อปานกลาง
– เข็มเย้บผ้าธรรมดา เบอร์ 90 จำนวน 2 เล่ม สำหรับเย็บผ้าหนา
– เข็มเย็บผ้ายืด จำนวน 1 เล่ม ก้านเข็มแต้มสีน้ำเงิน (กรณีมาซื้อเพิ่มเข็มยี่ห้อ SCHEMETZ ของเยอรมันใช้ก้านเข็ม สีเหลืองทองค่ะ)

เมื่อซื้อจักรเย็บผ้ารุ่น Smoothie, Sweetie, Cherry ในกล่องอุปกรณ์จะมีเข็มให้ 1 ห่อเข็มจักรเย็บผ้าธรรมดาเบอร์ 14 เหมาะกับการเย็บผ้าหนา (เมื่อเทียบเข็ม SCHMETZ ระบบยุโรป เทียบกับเบอร์ 90 ค่ะ)
จะต้องเปลี่ยนเข็มเมื่อไหร่
เข็มเย็บผ้าจะมีการสึกหรอเมื่อผ่านการใช้งานไปถึงระยะหนึ่งนะคะ เราควรที่จะเปลี่ยนเข็มเมื่อเราเย็บผ้าแล้วเข็มมีอาการดังนี้ค่ะ
- เมื่อเข็มทื่อ เราควรจะเปลี่ยนเข็มใหม่ สังเกตจากฝีเข็มกระโดด เสียงดัง(ปุกๆๆ) หรือเข็มทื่อจึงไปสะกิดเส้นใยผ้าทำให้ผ้าย่นหรือรั้ง
- เมื่อเข็มงอ วิธีสังเกต วางด้านเรียบของเข็มบนพื้นเรียบๆ เช่น กระจก หากเข็มงอจะเห็นได้ชัดเจนค่ะ
Cleaning, TIPS & TRICK
ตรุษจีนนี้เที่ยวไหนดี..?
เชื่อว่าคนไทยเชื้อสายจีนทุกคนต้องตื่นเต้นกับเทศกาลตรุษจีน นอกจากการจับจ่ายใช้สอย การไหว้ และอั่งเปานั้น สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างคือ การไปเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ในวันตรุษจีนนั่นเองค่ะ
วันนี้แอดมินมีสถานที่จัดงานตรุษจีนน่าเที่ยวแต่ละจังหวัดมาแนะนำทุกคนค่ะ

1. จังหวัดสุพรรณ ตรุษจีนเมืองสุพรรณบุรี มหัศจรรย์ 12 ปี มังกรสวรรค์
วันที่ 25-26 มกราคม 2563 เวลา 17.30 – 22.00 น. บริเวณอุทยานมังกรสวรรค์
นอกจากจะได้รับชมกิจกรรมที่ทางจังหวัดจัดแสดงแล้ว ยังมีคอนเสิร์ตจากศิลปินมากมาย
สอบถามรายละเอียอดเพิ่มเติมที่
ที่ทำการปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี โทร 035-535380
ททก.สำนักงานสุพรรณบุรี โทร 035-525867 และ 035-525880
ที่มา : http://www.suphan.biz/chinesenewyear.htm

2. เมืองพัทยา
วันที่ 25 มกราคม 2563 บริเวณลานกิจกรรมพัทยากลาง และถนนคนเดินเมืองพัทยา ภายในงานจะพบกับกิจกรรมต่างๆ อาทิเช่น การเชิดสิงโต การแสดงจากศิลปินต่าง ๆ แถมยังมีการประกวดต่าง ๆ
มีการบวงสรวงถวายเครื่องราชสักการะสิ่งศักดิ์สิทธื์เพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่
ฝ่ายส่งเสริมวัฒนธรรมการท่องเที่ยว โทร 0 3825 3100 ต่อ 3130
Pattaya Center 1337 ตลอด 24 ชั่วโมง
ที่มา : https://www.pattayacityevents.com

3. จังหวัดนครสวรรค์ สืบสานงานประเพณี แห่เจ้าพ่อ เจ้าแม่ปากน้ำโพ
วันที่ 18-29 มกราคม 2563 จัดกัน 12 วัน 12 คืนไปเลย กับจังหวัดนครสวรรค์ นอกจากกิจกรรมภายในงานต่าง ๆ ยังมีขบวนแห่ ทั้งกลางวันและกลางคืนด้วยนะคะ
วันที่ 27 มกราคม ขบวนแห่กลางวัน
วันที่ 28 มกราคม ขบวนแห่กลางคืน
พิเศษมากๆสำหรับคนที่ไปร่วมงาน สามารถสักการะองค์เจ้าแม่กวนอิมองค์ต้นแบบ จากประเทศจีน โดยจะประดิษฐาน ณ อาคารพาสาน Landmark
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 0 5622 1811 2
ที่มา : https://www.facebook.com/pg/paknamphochinesenewyear

4. จังหวัดนครราชสีมา
วันที่ 25-27 มกราคม 2563 เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีและถนนจอมพล
ภายในงานมีการออกร้านจำหน่ายอาหารจีนจากภัตตาคารชื่อดังของโคราช รวมถึงมีการแสดงไทยจีนร่วมสมัยต่าง ๆ สัมผัสกลิ่นอายบรรยากาศถนนสายวัฒนธรรม
มีการประกวด Miss Chinese New Year Korat และรับชมดนตรีโฟคซอง ยุค 80-90
สอบถามรายละเอียอดเพิ่มเติม โทร 044 234 600
ที่มา : https://www.facebook.com/PRmunicipalitykorat

5.เยาวราช
วันที่ 25-26 มกราคม 2563 เวลา 12.00 – 00.00 น. บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา ถนนเยาวราช
สำหรับใครที่ไม่ได้ออกต่างจังหวัด ก็สามารถเที่ยววันตรุษจีนได้เหมือนกันค่ะ โดยสถานที่จัดก็คุ้นเคยกันอยู่แล้ว นั่นคือเยาวราชนั่นเองค่ะ งานเริ่มเที่ยงวันไปจนเที่ยงคืน เที่ยวกันได้เต็มอิ่มในวันตรุษจีน
ภายในงานมีทั้งการแสดงต่างๆ มีการออกบูธจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน
มีมินิคอนเสิร์ตจากสิงโต นำโชค ไอซ์ ศรัญยู และเจนนิเฟอร์ คิ้ม และสัมผัสของดีประจำเยาวราชอีกมากมาย
ที่มา : https://mgronline.com
Cooking, TIPS & TRICK
น้ำพริก! ทานแล้วดีต่อสุขภาพ
ใครชอบทานน้ำพริกบ้าง ยกมือขึ้น !!! เชื่อว่ามีคนยกมือกันพรึ่บพรับแน่นอน ประเทศไทยเราสมัยก่อนเคยมีน้ำพริกมากกว่า 500 ประเภท ปัจจุบันเหลืออยู่ 200 ประเภทเท่านั้น ในแต่ละท้องถิ่นจะมีส่วนประกอบของน้ำพริก วิธีการทำ และวิธีการกิน แตกต่างกันไป เช่นน้ำพริกเห็ด น้ำพริกกะปิ น้ำพริกปลาทู น้ำพริกปลาร้า น้ำพริกหนุ่ม และน้ำพริกไข่เค็ม วันนี้ ELVIRA ได้รวบรวมประโยชน์คุณค่าสารอาหาร ของน้ำพริกมาแบ่งปันกัน ว่าอาหารรสชาติเผ็ดร้อนจานนี้ มีคุณค่าทางสารอาหารที่เราคาดไม่ถึงอีกมากมาย เพราะในน้ำพริกมีส่วนผสมของสมุนไพรที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพซึ่งมีส่วนประกอบทั่วไปคือ พริก กระเทียม หอมแดง กุ้ง น้ำปลา และปลาร้า ฯลฯ แต่ละส่วนประกอบเหล่านี้ก็มีคุณค่าทางสารอาหารแต่ละอย่างแตกต่างกันไป
โดยรวมน้ำพริก สามารถเพิ่มการสร้างเซลล์กำจัดเชื้อโรคได้อย่างเป็นธรรมชาติ ส่งเสริมระบบการไหลเวียนโลหิต และระบบการหายใจให้ดีขึ้น ซึ่งช่วยลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน น้ำพริกมีส่วนประกอบของ antioxidants และ anti-ageing ซึ่งสามารถลดการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ ได้ร้อยละ 20 และ โรคทางสมอง ได้ถึงร้อยละ 26 ถึง 42 เลยทีเดียว
นอกจากนี้ น้ำพริกยังเป็นตัวกระตุ้นให้คนทั่วไปนิยมทานผักมากขึ้นด้วย เพราะรสชาติที่เผ็ดร้อนทำให้ต้องมีผักกินเป็นเครื่องเคียงเพื่อลดความจัดจ้าน ซึ่งผักที่เอามากินคู่กับน้ำพริกแต่ละอย่าง และแต่ละฤดูกาล แม้กระทั่งแต่ละพื้นที่ก็แตกต่างกันออกไป เหตุนี้เองที่ทำให้การกินน้ำพริกได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์มากโข ทางการแพทย์ยืนยันแล้วว่าเส้นใยของผักช่วยในระบบการย่อยอาหาร มาดูประโยชน์จากส่วนผสมอื่นๆกันบ้าง

พริก คือ ส่วนประกอบที่สำคัญในการทำน้ำพริก พริกทุกชนิดมีสารแคปไซซิน ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการป้องกันความชรา มีสารแคโรทีนอยด์ ซึ่งล้วนมีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้สดชื่น ตื่นตัว ขับลมในลำไส้ กระตุ้นการเจริญอาหาร และยังมีวิตามินซีที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของหลอดเลือด เสริมการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว และช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกาย เหมาะกับใครที่แพ้อากาศหรือเป็นหวัดบ่อย

หอมแดง กระเทียม จะมีเซเลเนียม ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และมีโปรเตสเซียมเยอะ ทางการแพทย์ระบุว่ามีคุณสมบัติช่วยให้เซลล์แข็งแรง และยังจะได้น้ำมันจากกระเทียมซึ่งเป็นสารแอนตี้เซปติก ช่วยป้องกันการติดเชื้อ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ และลดไขมันในเส้นเลือด ช่วยให้การไหลวียนของเลือดดีขึ้น โดยเฉพาะกระเทียม มี อัลซิลิน (allicin) และซัลเฟอร์ (sulfur) สูง ช่วยลดอาการขาดหลุดร่วงของเส้นผม ลดความดันโลหิต ช่วยไม่ให้เลือดจับตัวเป็นลิ่มหรืออุดตันตามผนังหลอดเลือด จึงช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิตและเสริมภูมิต้านทานร่างกาย ขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ ขับลมในกระเพาะอาหารได้ และในหอมแดงยังมีฟอสฟอรัสปริมาณสูง ช่วยบำรุงประสาทและความจำ ทำให้สมองแจ่มใส ช่วยเจริญอาหาร ช่วยลดความร้อนในร่างกาย แก้หวัดคัดจมูก ขับลมในลำไส้ได้อีกด้วย
กุ้งแห้ง มีแคลเซียมสูง ช่วยทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง
กะปิ มีวิตามินบี 12 ช่วยบำรุงระบบประสาท เสริมการสร้างเม็ดเลือด ช่วยป้องกันอาการโลหิตจางได้เป็นอย่างดี และมีแคลเซียมสูงกว่านมวัว 15 เท่า (น้ำพริก 1 ถ้วย ใช้กะปิ 20-30 กรัม ให้แคลเซียม 500 ม.ก.) ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง นอกจากนี้ กะปิยังให้โซเดียมโปรแตสเซียมและไอโอดีนอีกด้วย ประโยชน์ที่โดดเด่นสุดๆ ก็คือสารแอสตาแซนทิน (Astaxanthin) ที่พบในสัตว์ทะเลอย่างกุ้ง หรือเคย ถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีมากต่อร่างกายและผิวพรรณค่ะ
ข่า ช่วยย่อยอาหาร ช่วยขับลมแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ท้องเดิน แก้บิด แก้แน่นหน้าอก และบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน
ตะไคร้ ช่วย ลดความดันโลหิตสูง ขับเหงื่อ แก้หวัด แก้ปวดศีรษะ แก้อาการขัดเบา ช่วยขับปัสสาวะ แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ แน่น จุกเสียด ช่วยขับลมในลำไส้ บรรเทาอาการไอ แก้เบื่ออาหาร เป็นยาบำรุงธาตุไฟ
มะกรูด น้ำมะกรูดช่วยให้เจริญอาหาร แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ ขับลม ช่วยขับและละลายเสมหะ บรรเทาอาการไอ ใบมะกรูดช่วยรักษาอาการจุกเสียดและขับลมในลำไส้

มะขามเปียก มีวิตามินซี และวิตามินเอ มีแคลเซียม เป็นยาระบาย แก้ท้องผูก ช่วยขับเสมหะช่วยกระตุ้นการทำงานของกระเพาะอาหาร ทำให้ระบบการย่อยอาหารดีขึ้น ช่วยเจริญอาหาร บำรุงธาตุ ขับเหงื่อ ขับลม ขับเสมหะ แก้อาเจียน ลดความดันโลหิต ช่วยให้ระบบการไหลเวียนโลหิตดี ลดอาการบวม แก้ไขข้ออักเสบ
มะเขือพวง มีเส้นใยสูง ป้องกันท้องผูก และยังมี ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ส่วนประกอบของพริกแกงมีสารต้านมะเร็ง ส่วนขมิ้นมีสารเคอมิวมิน กรดเฟอลิกฟลาโรวอยด์ เป็นสารต้านมะเร็ง
เห็นไหมคะว่าประโยชน์จากน้ำพริกนั้นอัดแน่นจริงๆ จากส่วนประกอบของน้ำพริกแล้ว ยังจะได้วิตามินและเกลือแร่จากผักต่างๆที่นำมาต้มทานแกล้มน้ำพริกอีกด้วย มื้ออาหารมื้อต่อไปอย่าลืมเพิ่มเมนูน้ำพริกลงไปในมื้ออาหารกันนะคะ



ที่มา : http://bit.ly/2yhQO2p
http://bit.ly/2kFVOcp
http://women.trueid.net/detail/27865
http://naturespice.co.th
Cooking, TIPS & TRICK
เรื่องเล่าของขนม: ไก่ยัดไส้

ไก่ยัดไส้ เมนูอาหารที่เปลี่ยนจากปีกไก่ที่แสนจะธรรมดาเป็นเมนูปีกไก่ยัดไส้ที่เพิ่มคุณค่าทางสารอาหารพร้อมรถชาติที่กลมกล่อมเต็มไปด้วยไส้ที่มีส่วนผสมของวัตถุดิบ👍ที่มีทั้งโปรตีนและผัก🌿ที่ให้คุณประโยชน์ทางด้านสารอาหารครบถ้วนอย่างเช่น แครอท 🥕ซาลารี่ วุ้นเส้น ไก่ยัดไส้สามารถทำได้ทั้งแบบทอด นึ่ง อบ และย่าง แต่ละแบบจะให้รสสัมผัสที่ต่างกันไป และไส้ที่ยัดเข้าไปในปีกไก่นั้น🐔 หากกล่าวกันตามจริงแล้ว สามารถใส่วัตถุดิบได้หลากหลาย ในไส้ เช่นขิงซอย เห็ดหอม กุ้งสับ หมูสับ หอมหัวใหญ่ ไข่ไก่ ชีส เมล็ดข้าวโพด🌽 เมล็ดถั่วลันเตา เป็นต้น
ไก่ยัดไส้ สามารถเป็นได้ทั้งเมนูอาหารจานหลักและอาหารทานเล่น ปกติทั่วไปแล้วไก่ยัดไส้จะทานคู่กับน้ำจิ้ม 🥃หากเป็นไก่ยัดไส้แบบทอดจะทานคู่กับน้ำจิ้มไก่ ไก่ยัดไส้แบบนึ่งทานคู่กับน้ำจิ้มมะขาม ไก่ยัดไส้แบบย่างจะทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่ว ทานพร้อมกับข้าวเหนียวหรือข้าวสวยก็ได้ทั้งสองแบบ หรือจะเพิ่มไส้ที่ยัดเข้าไปโดยมีส่วนผสมของแป้งเข้าไปเพื่อทานเป็นกับแกล้ม ไม่เน้นทานกับข้าวก็ได้เช่นกัน😍
เล่าเรื่องไก่ยัดไส้ในแบบต่างๆ จนทำให้รู้สึกหิวกันขึ้นมาแล้ว เรามาทำเมนูไก่ยัดไส้กันดีกว่าค่ะ หากใครสนใจสูตรในการทำเมนูนี้ ต้องไม่พลาดที่จะติดตามในรายการ สบ๊ายสบายสไตล์เอลวิร่า ในวันอังคารที่ 2 กรกฎาคม นี้ บ่าย 2 โมง แล้วพบกันนะคะ👉💕🐔
Cooking, TIPS & TRICK
เรื่องเล่าของขนม: ซอส

เรื่องเล่าของ “ซอส”
วันนี้เราจะมาพูดถึงซอส😋ปรุงรสค่ะ ในการทำอาหารน้ำปรุงรสหรือซอสถือว่ามีส่วนสำคัญในการทำให้รสชาติอาหารกลมกล่อมยิ่งขึ้น ซอสจะมีหลายแบบค่ะ เช่น เป็นของเหลว แบบครีม หรืออาหารกึ่งของแข็ง🧀ที่ใช้ประกอบหรือใช้ในการทำอาหาร ปกติเราจะไม่รับประทานน้ำปรุงรส แต่จะใช้ปรุงแต่งรสชาติ เพิ่มความชุ่มชื่น หรือตกแต่งรสชาติของอาหาร ซึ่งจะมีหลายรสชาติ มีแบบบรรจุภัณฑ์ที่แตกต่างกันไป ตามร้านค้าทั่วไปค่ะ อย่างเช่น ซอสหอยนางรม ซอสถั่วเหลือง เป็นต้น
ซอสปรุงรสยังมีอีกแบบนะคะที่สามารถทานได้โดยไม่ต้องไปปรุงรสชาติในอาหารก่อน นั่นคือ ครีมซอสที่สามารถทานได้เลยซึ่งเราจะทานคู่กับขนมปัง🍞 แครกเกอร์ หรือใช้ทาขนมปังทำแซนวิท🥪 และทานกับสลัดผักผลไม้ต่างๆได้อีกด้วย
ว่าแล้วก็นึกอยากลองทำซอสไว้ทานเองที่บ้านบ้าง😄 ไว้กินกับขนมปัง🥖หรือแซนวิท🥪เวลาเร่งด่วนหรือรองท้องเวลาหิว สนใจติดตามชมได้นะคะ วันอังคาร 25 มิ.ย. นี้ ⏰เวลาเดิมบ่าย 2 โมง อย่าลืมติดตามชมนะจ้า✌️
Cooking, TIPS & TRICK
เรื่องเล่าของขนม: ส้ม

วันนี้เราจะมาพูดถึงผลไม้ชนิดหนึ่งที่มีรูปทรงกลมมีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน และมีประโยชน์ต่อร่างกายมาก เราเรียกผลไม้ชนิดนี้ว่าส้ม ส้มเป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก🌳 มีสายพันธุ์นับร้อยสายพันธุ์ เติบโตกระจายอยู่ทั่วโลก จะมีน้ำมันหอมระเหยในใบ ดอก และผล และมีกลิ่นฉุน หากนำใบขึ้นส่องกับแสงแดด จะเห็นจุดเล็กๆ เต็มไปหมด ซึ่งจุดเหล่านั้นก็คือแหล่งน้ำมันนั่นเอง
👉ส้ม มักจะมีแคลเซียม โปแทสเซียม วิตามินเอ และ วิตามินซี มากเป็นพิเศษ 🍊 มีการระบุว่า ได้มีการปลูกส้มมานานหลายพันปีมาแล้ว เชื่อกันว่า ส้มหลายชนิด ที่อยู่ในสกุลซิทรัส เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิด หรือเป็นพืชท้องถิ่นดั้งเดิมในเขตร้อน และเขตกึ่งร้อนของทวีปเอเชีย และกลุ่มเกาะมลายู มีส้มชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ส้มเขียวหวาน ซึ่งตัวเปลือกจะไม่เหมือนกับส้มชนิดอื่น เพราะเวลาผลสุกแล้วเปลือกก็ยังคงมีสีเขียว และมีรสหวาน มีข้อสันนิษฐานว่า อาจเกิดจากการเพาะเมล็ด และขยายพันธุ์จากส้มแก้ว หรือเกิดจากพันธุ์ที่ชาวจีนนำเข้ามาปลูกในภาคกลาง🌈 เมื่อประมาณร้อยกว่าปีมาแล้ว มีการนำไปกระจายปลูกในภาคอื่นๆ และเรียกกันว่า ส้มเขียวหวาน เป็นลักษณะของส้มทั่วไป ที่ปลูกในภาคกลาง ในอุณหภูมิไม่เย็นจัด
ประโยชน์และสรรพคุณของส้ม👍 ช่วยในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกาย ช่วยลดความดันโลหิต ลดคอเลสเตอรอลในเลือด บำรุงหัวใจ และที่สำคัญส้มช่วยบำรุงผิว สารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินซีมีส่วนช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากการถูกแสงแดดทำร้าย ปกป้องผิวจากมลพิษ ช่วยลดการเกิดริ้วรอย และช่วยบำรุงเซลล์ผิวให้แข็งแรง ทำให้ผิวดูกระชับตึงมากขึ้น😍 เนื่องจากวิตามินซี🍊เป็นสารตั้งต้นของคอลลาเจนนั่นเอง ผลของส้มยังสามารถนำมาแปรูปเป็นแยมส้ม น้ำส้มแบบเข้มข้น ครีมบำรุงผิว เป็นต้น
เห็นส้มมีประโยชน์มากมายขนาดนี้ เราต้องทำเมนูที่มีส้มมาเป็นส่วนประกอบในการทำของหวานกันบ้างแล้วละ
Cooking, TIPS & TRICK
เรื่องเล่าของขนม: เกี๊ยวซ่า

🥟🥟 เรื่องเล่าเกี๊ยวซ่า🥟🥟
วันนี้จะมาพูดถึงความซ่าค่ะ ซ่าในที่นี้ไม่ใช่เครื่องดื่มแต่เป็นอาหารค่ะ
นั่นคือเกี๊ยวซ่าค่ะ🥟🥟 เกี๊ยวซ่าทำจากแป้งสาลี ห่อไส้ที่ทำจากเนื้อสัตว์
แผ่นแป้งเป็นแป้งสาลีไม่ใส่ผงฟูหรือยีสต์ นำมาห่อไส้หมู🐷แล้วทอด
หรือนำมาจี่กับกระทะ วัตถุดิบในการทำก็หาได้ง่ายมากค่ะ
😋ที่มาของเกี๊ยวซ่าในภาษาไทยมาจากภาษาญี่ปุ่นว่าเกียวซะ ญี่ปุ่น
ได้รับอาหารชนิดนี้มาจากชาวแมนจู ซึ่งนำไปทอดรับประทานเช่นกัน
ด้านชาวจีนทางเหนือรับอาหารชนิดมาจากชาวแมนจูเช่นกัน เรียกว่า
เจี่ยวจือ นำมาต้มแล้วกินกับน้ำซุป 🥘อาหารชนิดนี้เป็นคนละชนิดกับ
เกี๊ยวซ่า ซึ่งคนไทยจะเรียกตามภาษาจีนแต้จิ๋ว จะตรงกับอาหารจีน
กวางตุ้งที่เรียก หุนทุน สำหรับประเทศจีนที่เป็นประเทศต้นกำเนิดนั้น
จะเรียก “เกี๊ยวน้ำ”🥟 ที่นำแผ่นแป้งไปห่อผักกาดขาว เนื้อหมูและ
กุยช่ายว่า แต่สำหรับประเทศญี่ปุ่นจะเรียกว่า ยะกิเกี้ยวซ่า เป็นชื่อหลัก ๆ
ซึ่งเป็นการนำแผ่นแป้งไปห่อเนื้อหมู กะหล่ำปลี และกระเทียม
และนำไปย่างบนกระทะเหล็กร้อนค่ะ
พูดถึงเกี๊ยวซ่าแล้วหลับตานึกภาพออกเลยค่ะ และความหิวก็ตามมา😍
ต้องขอตัวไปหาวัตถุดิบก่อนนะคะ เพราะทำเกี๊ยวซ่าทานเองจะได้
รสชาติที่เราชอบ และสะอาด